วิธีเล่นบาคาร่า

ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ยังไม่เคยเล่นบาคาร่ามาก่อน แถมยังไม่รู้ว่าต้องไปเริ่มต้นศึกษาตรงไหน ลองหาอ่านดูหลายที่แล้วก็ยังงง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจกไพ่, นับแต้มไพ่, อัตราจ่าย ไปจนถึงไพ่ใบที่สาม วันนี้เราได้รวบรวม คู่มือเล่นบาคาร่า ขั้นพื้นฐานที่มือใหม่จำเป็นต้องรู้ อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายที่สุดชนิดที่ว่าอ่านจบแล้วสามารถไปวางเดิมพันเล่นกันได้อย่างสบายใจมาไว้ในบทความนี้แล้ว


วิธีแจกไพ่บาคาร่า

วิธีเล่นบาคาร่า

ในขั้นตอนแรกของการเล่นบาคาร่าออนไลน์เว็บตรง ดีลเลอร์ประจำโต๊ะจะทำการแจกไพ่ที่เตรียมไว้ให้กับฝั่ง Player และ Banker ตามลำดับ โดยคว่ำหน้าไพ่ลง เมื่อทั้งสองฝั่งได้รับไพ่ครบสองใบแล้ว หากแต้มไพ่ออกมาไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้ ดีลเลอร์จะทำการจั่วไพ่เพิ่มตามกฎของไพ่ใบที่สาม ซึ่งเป็นจำนวนไพ่สูงสุดที่แต่ละฝั่งจะได้รับ

การตัดสินผลแพ้ชนะจะดูกันที่แต้มของแต่ละฝั่ง ฝั่งไปได้แต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ ส่วนไพ่ที่เหลืออยู่ก็จะถูกแจกสำหรับเล่นในรอบต่อไป โดยเกมจะดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไพ่ที่อยู่ในบาคาร่าชู (ที่ใส่ไพ่สำหรับแจก) หมดนั่นเอง


วิธีนับแต้มบาคาร่า

วิธีเล่นบาคาร่า

วิธีการนับแต้มจะมีความคล้ายกับป๊อกเด้งในบ้านเรา จึงไม่แปลกที่มือใหม่มักจะเข้าใจผิดคิดว่านี่คือเกมเดียวกัน โดยบาคาร่าจะเอาแต้มไพ่แต่ละใบมารวมกันแล้วใช้เพียงแค่หลักหน่วยเท่านั้น เช่น ไพ่ 6 กับไพ่ 8 รวมกันแล้วได้ 14 จะถือว่ามีแค่ 4 แต้มเท่านั้น หากได้ 0 แต้ม ก็จะถูกเรียกว่าไพ่บอด ซึ่งเป็นแต้มต่ำสุดของเกมนี้ และแต้มสูงสุดก็คือ 9 แต้ม

หากมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้ม จะถือว่าชนะทันทีและจบเกมในรอบนั้นโดยไม่มีการจั่วไพ่เพิ่ม หากทั้งสองฝั่งได้ 8-9 แต้ม ก็จะยึดเอาฝั่งที่มีแต้มมากกว่า หากแต้มต่ำกว่านี้ก็ต้องไปดูว่าเข้าเงื่อนไขการจั่วไพ่ใบที่สามหรือไม่

สำหรับไพ่แต่ละใบจะมีแต้มที่แตกต่างกันไปคือ ไพ่ A 1 แต้ม, ไพ่ 2-9 มีค่าเท่ากับเลขหน้าไพ่ ขณะที่ไพ่ J, Q และ K จะไม่มีแต้ม ส่วนดอกไพ่หัวใจ, โพธิ์ดำ, ข้าวหลามตัด และดอกจิก จะไม่ส่งผลกับแต้มหรือขนาดไพ่เหมือนกับเกมไพ่ชนิดอื่น


วิธีเล่นบาคาร่า ไพ่ใบที่ 3 เงื่อนไขสำคัญที่ต้องเข้าใจ

วิธีเล่นบาคาร่า

แทบจะเป็นปัญหาโลกแตกกันเลยทีเดียวกับเรื่องราวของไพ่ใบที่ 3 ที่มักจะเจอผู้เล่นหน้าใหม่หันมาโวยวายกันว่าโดนคาสิโนโกงทั้ง ๆ ที่กำลังจะชนะอยู่แล้ว ที่จริงการจั่วไพ่ใบที่สามจะไม่ได้เกิดขึ้นทุกรอบ แต่จะทำก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขสำคัญดังนี้

เงื่อนไขการจั่วไพ่ใบที่ 3 ของฝั่ง Player

  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวมระหว่าง 0-5 ให้จั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวมระหว่าง 6-7 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สอบใบแรกมีแต้มรวมระหว่าง 8-9 ไม่ต้องจั่วเพิ่ม และตัดสินผลแพ้ชนะได้ทันที

เงื่อนไขการจั่วไพ่ใบที่ 3 ของฝั่ง Banker

  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวมต่ำกว่า 2 แต้ม ให้จั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวม 3 แต้ม และฝั่ง Player มีการจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วผลรวมเป็น 8 หรือ 9 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวม 4 แต้ม และฝั่ง Player มีการจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วผลรวมเป็น 0, 1, 8 หรือ 9 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวม 5 แต้ม และฝั่ง Player มีการจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วผลรวมเป็น 0, 1, 2, 3, 8 หรือ 9 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวม 6 แต้ม และฝั่ง Player มีการจั่วไพ่ใบที่ 3 แล้วผลรวมเป็น 0, 1, 2, 3, 4, 5, 8 หรือ 9 ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
  • เมื่อไพ่สองใบแรกมีแต้มรวม 7 แต้มขึ้นไป ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม

อัตราจ่ายบาคาร่า

วิธีเล่นบาคาร่า

พูดถึงบาคาร่ามาขนาดนี้ไม่พูดถึงอัตราจ่ายคงจะไม่ได้ หากดูให้ดีจะเห็นว่าบนโต๊ะบาคาร่าจะมีระบุอัตราจ่ายสำหรับการวางเดิมพันแต่ละรูปแบบไว้อย่างชัดเจน ซึ่งอัตราจ่ายเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์กับโอกาสออกรางวัลหรือความน่าจะเป็นอย่างมีนัยะสำคัญอยู่แล้ว คือ ยิ่งจ่ายมากยิ่งมีโอกาสน้อย ยิ่งจ่ายน้อยยิ่งมีโอกาสมาก ส่วนอัตราจ่ายที่พบเห็นได้บ่อยจะมีอยู่ประมาณ 19 รูปแบบ ดังนี้

  • เจ้ามือชนะ (Banker) อัตราจ่าย 1 : 0.95 จะได้รับเงินเมื่อผลออกมาเป็นเจ้ามือชนะ หากเสมอจะได้รับเงินเดิมพันคืน สำหรับโต๊ะที่ไม่มีคอมมิชชั่น อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 1 : 1
  • ผู้เล่นชนะ (Player) อัตราจ่าย 1 : 1 จะได้รับเงินเมื่อผลออกมาเป็นผู้เล่นชนะ หากเสมอจะได้รับเงินคืนเช่นกัน
  • เสมอ อัตราจ่าย 1 : 8 จะได้รับเมื่อผลออกมาทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน
  • เจ้ามือคู่เหมือน อัตราจ่าย 1 : 11 เมื่อไพ่สองใบแรกฝั่งเจ้ามือออกแต้มหรือหน้าไพ่เดียวกัน
  • ผู้เล่นคู่เหมือน อัตราจ่าย 1 : 11 เช่นกัน แต่จะได้รับเงินรางวัลเมื่อไพ่สองใบแรกของฝั่งผู้เล่นออกหน้าเหมือนกัน
  • ใหญ่ อัตราจ่าย 1 : 0.54 เมื่อจำนวนไพ่ที่ถูกใช้ในตานั้นมีจำนวน 5 – 6 ใบ
  • เล็ก อัตราจ่าย 1 : 1.5 เมื่อตานั้นตัดสินผลแพ้ชนะด้วยไพ่เพียงแค่ 4 ใบ
  • เจ้ามือคี่ อัตราจ่าย 1 : 0.94 เมื่อแต้มรวมฝั่งเจ้ามือเป็นเลขคี่
  • เจ้ามือคู่ อัตราจ่าย 1 : 0.94 เมื่อแต้มรวมฝั่งเจ้ามือเป็นเลขคู่
  • ผู้เล่นคี่ อัตราจ่าย 1 : 0.96 เมื่อแต้มรวมฝั่งเจ้ามือเป็นเลขคี่
  • ผู้เล่นคู่ อัตราจ่าย 1 : 0.96 เมื่อแต้มรวมฝั่งเจ้ามือเป็นเลขคู่
  • เจ้ามือป๊อก อัตราจ่าย 1 : 3.5 เมื่อเจ้ามือชนะด้วย 8 หรือ 9 แต้ม
  • ผู้เล่นป๊อก อัตราจ่าย 1 : 3.5 เมื่อผู้เล่นชนะด้วย 8 หรือ 9 แต้ม
  • คู่เลขเหมือนใด อัตราจ่าย 1 : 5 เมื่อไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่นได้เลขเหมือนกัน (จ่ายเงินเพียงครั้งเดียวเท่านั้นตลอดทั้งเกม)
  • คู่เลขเหมือนสมบูรณ์ อัตราจ่าย 1 : 25 เมื่อไพ่สองใบแรกของฝั่งเจ้ามือหรือผู้เล่นได้เลขเหมือนกันและเป็นดอกเดียวกัน (จ่ายเงินเพียงครั้งเดียวเท่านั้นตลอดทั้งเกม)
  • ซูเปอร์เสมอ อัตราจ่าย 1 : 225 เมื่อเกมรอบนั้นออกเสมอ แล้วเดิมพันตรงตามแต้มที่ออก
  • มังกรน้ำเงิน อัตราจ่าย 1 : 30 เมื่อเจ้ามือและผู้เล่นมีผลรวมแต้มห่างกัน
  • มังกรแดง อัตราจ่าย 1 : 30 เมื่อเจ้ามือและผู้เล่นมีผลรวมแต้มห่างกัน
  • ซูเปอร์ 6 อัตราจ่าย 1 : 12, 1 : 20 เจ้ามือชนะด้วยแต้มรวม 6 แต้ม

 

แม้ว่าบาคาร่าจะเป็นเกมที่มีการใช้สูตรและเครื่องมือสารพัดอย่างมาช่วยในการเอาชนะและเพิ่มโอกาสทำกำไร ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกยกให้เป็นเกมที่มีความโปร่งใสมากที่สุด เนื่องจากวิธีการวางเดิมพัน รูปแบบการลงเงิน ไปจนถึงอัตราจ่ายนั้นยากที่จะใช้กลโกงใด ๆ เอาเปรียบผู้เล่นได้ มีเพียงแค่ค่า House Edge เท่านั้นที่จะสามารถเพิ่มความได้เปรียบให้กับคาสิโนในระยะยาว ดังนั้นผู้เล่นมือใหม่จึงไม่มีอะไรต้องกังวลมาก ขอเพียงแค่ทำความเข้าใจในพื้นฐานการเล่นบาคาร่าและฝึกหัดให้เกิดความชำนาญ เพียงเท่านี้ก็สามารถสนุกไปกับเกมไพ่ยอดนิยมตลอดกาลกันได้แล้ว

Similar Posts